[ZST REVIEW] Paper Lives ตีแผ่ราคาของชีวิตในโลกทุนนิยม
Paper Lives
Paper Lives ในสังคมทุนนิยมปัจจุบันทำให้เราเคยชินกับการตีราคาให้กับข้าวของหรือแม้แต่สิ่งมีชีวิต แม้ว่าจะฟังดูไร้มนุษยธรรมแต่หลายครั้งที่มนุษย์ต่างก็ตีราคาให้กับมนุษย์ด้วยกันเอง และที่น่าเจ็บปวดไปกว่านั้นคือวลีที่ว่ามนุษย์ทุกคนมีค่าเท่ากันไม่ได้เป็นความจริงในโลกทุนนิยม แต่ละคนนั้นมีราคาที่แตกต่างกันออกไป Paper Lives เป็นภาพยนตร์ดราม่าที่จะทำให้เราสะเทือนใจไปกับสิ่งที่บางคนแม้แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงก็เคยพบเจอมาก่อนไม่ว่าจะเป็นคนไร้บ้าน คนยากจนที่ต้องทำอาชีพไม่เลือกเพื่อหาเลี้ยงท้อง ความเสื่อมโทรมของสภาพสังคมในประเทศที่เต็มไปด้วยความสวยงาม ความเหลื่อมล้ำทำให้เรานั้นสามารถมองข้ามภาพอันสวยงามไปได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
Paper Lives ภาพยนตร์สัญชาติตุรกีเรื่องนี้จะพาให้ผู้รับชมไปสัมผัสกับชีวิตของผู้ที่ทำอาชีพเป็นคนเก็บขยะในเมืองหลวง อาชีพที่ไม่เคยได้รับการพูดถึงอย่างจริงจังมาก่อนในภาพยนตร์ เราจะได้เห็นถึงวัฒนธรรมและสังคมของตุรกีผ่านภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างสมจริง และถึงแม้ว่าจะเป็นภาพยนตร์แนวดราม่าแต่ที่น่าสนใจก็คือภาพยนตร์เรื่องนี้มีฉากจบแบบหักมุม แม้ว่ามันจะไม่ได้หักมุมแบบ 100% จนทำให้เราคาดเดาไม่ได้แต่การหักมุมในระดับนี้ก็ถือว่าน่าประทับใจแล้วสำหรับภาพยนตร์แนวดราม่า
Paper Lives ภาพยนตร์จะเล่าถึงเรื่องราวของหัวหน้าพนักงานในโรงงานขยะแห่งหนึ่งที่ต้องควบคุมกลุ่มคนไร้บ้านในย่านเล็กๆ ภายในเมืองอิสตันบูลที่เต็มไปด้วยความสวยงาม พวกเขานั้นต้องออกไปตามสถานที่ต่างๆ เพื่อเก็บขยะมาส่งให้ใช้ผู้นี้นำเอาไปขายเพื่อแลกกับเงินมาประทังชีวิต แม้ว่าเขาจะเป็นถึงหัวหน้าแต่ก็เป็นเพียงแค่หัวหน้าในโรงงานขยะที่ได้รับค่าตอบแทนไม่สูง ประกอบกับอาการป่วยโรคไตที่ไม่ค่อยสู้ดีทำให้เขานั้นต้องเก็บหอมรอมริบรายได้เอาไว้เพื่อใช้รักษาตัวเอง แต่แล้ววันหนึ่งขณะที่เขากำลังเลิกงานเขาก็ได้พบกับเด็กชายคนหนึ่งที่กระโดดออกมาจากรถเก็บขยะ เด็กปริศนาคนนี้มีชื่อว่าอาลี เขาไม่รู้ว่าเด็กคนนี้มาได้ยังไงและจะต้องทำอะไรต่อ เขาจึงรับเลี้ยงเด็กคนนี้ด้วยความจำใจพร้อมกับทั้งพยายามสืบหาว่าเด็กคนนี้มีที่มาจากไหนกันแน่ แต่การรับเลี้ยงเด็กกลับทำให้เขานั้นได้กลับไปหวนคิดถึงตัวเองในวัยเด็ก ทำให้เขาตั้งใจว่าเขาจะเลี้ยงดูเด็กชายคนนี้ให้มีความสุขมากที่สุด
[สรุป] Paper Lives [7/10] เป็นหนังที่ทำออกมาได้ค่อนข้องดี ถึงความดราม่า กับตอนจบที่อาจจะทำให้ปวดใจไปบ้าง สำหรับใครที่อินในเรื่องแบบนี้ เป็นการนำเสนอเรื่องราวของคนเก็บขยะ กับเหล่าคนไร้บ้าน รวมถึงการสะท้อนสังคมของการใช้ความรุนแรง ถือว่าเป็นหนังที่คุ้มค่าแก่การดู
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น